สำนักข่าวต่างประเทศรายงานคดีหย่าร้างของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่กลายเป็นประเด็นในการวิพากษ์วิจารณ์ของชาวจีนเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากฝ่ายสามีพบว่าตลอดเวลา 16 ปีที่แต่งงานกันมา ภรรยาของเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเขาเลยแม้แต่น้อย และลูก ๆ ของพวกเขาก็กลายเป็นลูกของชายชู้ทั้งหมด
ในเดือนธ.ค. 2550 เฉินจื่อเซียนแต่งงานกับ อวี๋ฮวา หญิงสาวที่มีอายุอ่อนกว่าเขา 8 ปี หลังจากที่เพิ่งพบหน้าเธอเป็นครั้งแรก เขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เรียบง่ายและติดดิน อีกทั้งพ่อแม่ของเขาก็กดดันเขามานาน อยากจะให้เขาแต่งงานและลงหลักปักฐานเสียที เขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับฝ่ายหญิงโดยที่ยังไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอกันดีเท่าไหร่นัก
หลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน อวี๋ฮวา ก็บอก เฉิน ว่าเธอตั้งครรภ์ซึ่งทำให้เขาดีใจมาก โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าภรรยาของเขาตั้งท้องกับชายอื่นก่อนที่จะแต่งงานกับเขา
เมื่อ อวี๋ คลอดลูกสาวคนแรก เฉิน ก็ต้องไปทำงานเป็นคนขับรถทางไกลซึ่งทำให้เขาไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แต่ละครั้งที่ได้กลับบ้านที่เมืองเต๋อซิง มณฑลเจียงซี ก็อยู่ได้ไม่นาน
วันเวลาผ่านไปหลายปี ภรรยาของ เฉิน ก็คลอดลูกสาวคนที่ 2 ซึ่ง เฉิน ก็ยังคงคิดว่าเป็นลูกของเขา แต่เขาก็เริ่มระแคะระคายว่าภรรยาตัวเองอาจจะลักลอบคบชู้
ในปี 2562 เมื่อ อวี๋ บอกสามีของเธอว่าเธอตั้งท้องครั้งที่ 3 คราวนี้ เฉิน แน่ใจว่าเขาไม่ได้อยู่บ้านในช่วงนั้นที่จะมีความสัมพันธ์กันจนทำให้เธอตั้งท้องได้ เขาจึงพูดกับเธอตรง ๆ แต่ อวี๋ ก็ปากแข็ง ยืนยันว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา จนกระทั่งเขาต้องยอมรับในที่สุด
พอมาถึงเดือนพ.ย. 2565 เฉิน ก็มั่นใจว่าภรรยาของเขามีชู้อย่างแน่นอน โดยสืบมาว่าเธอลักลอบคบหากับชายคนหนึ่งซึ่งระบุเพียงชื่อสกุลว่า นายอู่ และต่อมา อวี๋ ก็คลอดลูกสาวคนที่ 4 ที่โรงพยาบาลในเมืองซ่างเหรา
แทนที่ เฉิน จะไปต่อว่า อวี๋ โดยตรงเหมือนคราวก่อน เขากลับจ้างทนายความและเดินทางไปแอบสืบข้อมูลที่โรงพยาบาล เฉิน พบว่า อวี๋ ไปคลอดลูกที่นั่นจริงและเขียนชื่อเขาว่าเป็นพ่อเด็ก อีกทั้งยังปลอมลายเซ็นในเอกสารปล่อยตัวคนไข้กลับบ้านอีกด้วย
เฉิน ซึ่งมั่นใจแล้วว่าภรรยาของเขาไม่ซื่อสัตย์ ได้เดินเรื่องขอฟ้องหย่าและร้องขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดากับลูกสาวทั้ง 3 คน ซึ่งผลที่ออกมาก็น่าตกใจมากเพราะลูกสาวทั้งสามนั้น ไม่มีใครมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับ เฉิน เลยแม้แต่คนเดียว
แม้ว่าจะหัวใจสลาย แต่ เฉิน ก็ยังคงยื่นฟ้องภรรยาเพื่อขอสิทธิเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสาม ขณะเดียวกันก็เรียกร้องฝ่ายหญิงให้จ่ายค่าชดเชยที่ทำร้ายจิตใจของเขามานานหลายปีอีกด้วย
คดีหย่าครั้งนี้กลายเป็นพาดหัวข่าวในสื่อท้องถิ่นของจีนนานหลายเดือน โดยทั้งสองฝ่ายต่างฟ้องร้องและกล่าวหากันและกัน ด้าน อวี๋ฮวา นั้นกล่าวหาว่า เฉิน ชอบลงไม้ลงมือทุบตีเธอ รวมทั้งทำร้ายแม่ของเธอซึ่งพยายามปกป้องเธอด้วย
เฉิน ยอมรับว่าเขาเคยทะเลาะวิวาทกับแม่ยายจริง แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขาไปเอาเรื่องกับ อวี๋ ที่เธอมีชู้ จึงลืมตัวไปเพราะกำลังโกรธ
ในวันที่ 29 ธ.ค. 2566 ศาลครอบครัวได้ตัดสินคดีของ เฉิน และ อวี๋ โดยมอบสิทธิการเลี้ยงดูบุตรสาวคนโต 2 คนให้ เฉิน และ อวี๋ จะต้องสละสิทธิการเป็นมารดาของเด็ก ๆ รวมถึงจะต้องจ่ายเงินรายเดือนให้อดีตสามีเพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูบุตร
เฉิน ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่าการเปิดโปงเรื่องภรรยามีชู้และเรื่องที่ลูก ๆ ไม่ใช่สายเลือดของเขานั้นทำให้เขาทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัส แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็วางแผนว่าจะทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังและเดินหน้าเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ต่อไป